หัดเขียน Python การใช้เขียน Function
การนิยามฟังก์ชั่นมีในทุกภาษา ซึ่งใน python จะแตกต่างจากภาษาส่วนใหญ่คือ function ของ python จะไม่จำต้องกำหนด return type จากฟังก์ชั่น และกำหนด type ของ parameter ที่ส่งมายัง function อีกด้วย และ เอกลักษณ์หลักคือไม่มี {} ใช้ block tab เหมือนเดิมครับในการเริ่ม function และจบ function ที่นี้เรามาดูตัวอย่างโค้ดกันเลยดีกว่า
def say_hello(): print('Hello World') #end of function say_hello() say_hello()
ผลลัพธ์การรันโปรแกรม
จากโค้ดสังเกตว่าการนิยามฟังก์ชั่นใน python นั้นจะต้องใช้คำว่า def จากนั้นจะเป็นชื่อ function แล้วตามด้วย () การรับ param ซึ่งใน function say_hello ที่เขียนขึ้นนี้ไม่มีการรับ param ใดๆ จากนั้นก็จะจบบรรทัดด้วย :
บรรทัดต่อไปก็ tab เป็นการเริ่มต้นโค้ดการทำงานของ function ซึ่งจะทำการ print ข้อความออกทางหน้าจอ จากนั้นก็ขึ้นบบรทัดใหม่ถ้าไม่มีการขึ้น block ใหม่ก็ถือว่าเป็นการจบ function
จากนั้นลองเรียกใช้ function say_hello 2 ครั้งก็เลยทำให้เกิดการแสดงข้อความ Hello World 2 ครั้งตามภาพ
ตัวอย่างต่อมาจะเป็น function ที่มีการรับ parameter เข้ามายังฟังก์ชั่น
def print_max(a, b): if a > b: print(a, ' is maximum') elif a == b: print(a, ' is equal to ', b) else: print(b, ' is maximum') print_max(5,6) print_max(9,4)
ผลลัพธ์การรันโปรแกรม
จะเห็นว่าไม่มีการกำหนด type ของ param เลย ซึ่งการรับส่งข้อมูลกันระหว่าง function ควรระวังและเขียนโค้ดกันให้ดีนะครับ
ตัวอย่างต่อมาจะคล้ายกับ function ก่อนหน้าต่างกันตรงที่การ default param ซึ่งทำให้การ call function นี้สามารถ call function โดยไม่ส่ง param ที่มีการ default ค่าได้ด้วย
def adder(x, y = 1): sum = x + y print('result ' , sum) adder(5)
ผลลัพธ์การรันโปรแกรม
จะเห็นเมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชั่น adder ส่งค่า 5 ไป มันจะทำการบวกค่า y ให้ซึ่งมีค่า default เท่ากับ 1 ผลรวมกลายเป็น 6 ตามรูปภาพผลลัพธ์
ต่อมาจะเป็นตัวอย่าง function แบบที่มีการ return ค่า ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีการกำหนด return type สามารถ return ออกมาได้เลย
def summary(x, y): sum = x + y return sum sum = summary(6,4) print('summary is ', sum)
ผลลัพธ์การรันโปรแกรม
จากตัวอย่างจะเห็นว่า จะมีการ return ค่าจาก function summary มาเก็บในตัวแปร sum จากนั้นก็แสดงผล
และนี้ก็เป็นตัวอย่างการนิยามฟังก์ชั่นรูปแบบต่างๆ ในภาษา python ผมของจบบทความนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ