ในบทความ visual basic ที่แล้วเกี่ยวกับการใช้ If อย่างเดียวดังนั้นในบทความนี้จะเกี่ยวกับการใช้ If ?Else If ? Else ซึ่งเป็นการกำหนดทางเลือกให้มีมากขึ้นกว่าเดิมนั้นคือเมื่อไม่เข้าเงื่อนไขของ If แล้วจะไปตรวจสอบว่าตรงกับเงื่อนไข Else If หรือไม่และถ้าหากไม่ตรงกับเงื่อนไขใดเลยก็จะไปทำเงื่อนไข Else ซึ่งก็จะทำให้โปรแกรมเรามีความซับซ้อนมากขึ้น มาถึงตอนนี้ก็ไปดูตัวอย่างโปรแกรม Visual basic ดีกว่าซึ่งผมได้ใช้ Visual basic 2008 ในการเขียน
ในตอนแรกทำการสร้างโปรเจ็คใหม่แบบ Windows Forms Application แล้วตั้งชื่อตามต้องการแล้วเลือก directory ที่จะเซฟครับ ตามรูป
จากนั้นทำการสร้าง Label, Text box, Button ตามรูป
โดยกำหนด properties ?Text ของ Label เป็น Please Enter Number
Properties Name ของ Text Box เป็น txtNum
Properties Name ของ Button เป็น btnCheck และ Properties Text เป็น Check จากนั้นก็ดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม Check เพื่อเขียนโค้ดครับ โดยเขียนโค้ดเพิ่มในส่วนที่ยังไม่มีนะครับ
Code
[sourcecode language=”vb”]
‘Thaicoding.net
‘————————————–
Public Class Form1
Private Sub btnCheck_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles btnCheck.Click
Dim Num As Integer
Num = txtNum.Text
If Num = 10 Then
MessageBox.Show(“If Number is ” & Num, “Simple If-Else If”)
ElseIf Num = 20 Then
MessageBox.Show(“Else If Number is ” & Num, “Simple If-Else If”)
Else
MessageBox.Show(“Else Number is ” & Num, “Simple If-Else If”)
End If
End Sub
End Class
[/sourcecode]
จากผลการรันโปรแกรมจะเห็นว่า จะได้ออกมา 3 กรณีตามที่เราเขียนเงื่อนไขไว้นั้นเองโดยขั้นแรกเราประกาศตัวแปร Num ไว้โดยให้มีค่าเท่ากับ txtNum.Text ซึ่งจะมีค่าเท่ากับตัวเลขที่เราใส่ไปในช่องนั้นเอง จากนั้นก็นำมาเช็คตัวเงื่อนไข ที่เราเขียนไว้ 3 กรณีคือ เท่ากับ 10 เท่ากับ 20 และไม่เข้า 2 กรณีที่ผ่านมานั้นเอง โดยถ้าตรงตามกรณีใดก็ให้แสดงกล่องข้อความแต่ละกรณีออกมา